เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 นายยุทธฤทธิ์ บุนนาค ที่ปรึกษา ได้กล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติภายใต้ระเบียบวาระที่ 72 เรื่องการเสริมสร้างการประสานงานด้านความช่วยเหลือในการบรรเทาภัยพิบัติ และมนุษยธรรมของสหประชาชาติ รวมถึงความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเป็นกรณีพิเศษ

ผู้แทนไทยแสดงความห่วงกังวลถึงความท้าทายจากภาวะฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากภัยพิบัติซึ่งเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยที่ประสบกับอุทกภัยในห้วงที่ผ่านมา ไทยเน้นย้ำความจำเป็นในการปฏิบัติตามกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติและชุมชนท้องถิ่นควรมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมเพื่อสร้าง ภูมิต้านทานในระยะยาว และได้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนเสริมสร้างประสิทธิภาพของระเบียบมนุษยธรรมโลก
เพื่อปรับปรุงการประสานงานและยกระดับการสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืน

ผู้แทนไทยยังได้ย้ำถึงบทบาทของไทยในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับประชาชนที่ข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอลี้ภัยและแสวงหาสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินงานตามกรอบแนวนโยบายการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา ในด้านสาธารณสุขและการศึกษา และแสดงความเสียใจต่อผลกระทบด้านมนุษยธรรมของสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ซึ่งมีการใช้อาวุธโดยไม่เลือกเป้าหมาย อาทิ ทุ่นระเบิด โดยไทยเรียกร้องให้รัฐภาคีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลยึดมั่นตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ นอกจากนี้ ยังย้ำความสำคัญของการปกป้องบุคลากรด้านมนุษยธรรม โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องและเคารพบุคลากรทางการแพทย์และสิ่งปลูกสร้างด้านสาธารณสุข พร้อมย้ำคำมั่นของไทยในการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาความท้าทานยด้านมนุษยธรรมร่วมกับประเทศสมาชิก หน่วยงานสหประชาชาติ และหุ้นส่วนด้านมนุษยธรรม