ไทยชี้แจงข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเรื่องสถานการณ์ชายแดน

ไทยชี้แจงข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเรื่องสถานการณ์ชายแดน

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 ธ.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 11 ธ.ค. 2568

| 80 view

ไทยใช้สิทธิตอบโต้หลังกัมพูชาอ้างถึงความขัดแย้งบริเวณชายแดนในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 80

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ในการอภิปรายทั่วไปต่อที่ประชุม UNGA ภายใต้ระเบียบวาระที่ 72 เรื่องการเสริมสร้างการประสานงานด้านความช่วยเหลือในการบรรเทาภัยพิบัติ และมนุษยธรรมของสหประชาชาติ รวมถึงความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเป็นกรณีพิเศษ ไทยกล่าวถ้อยแถลง (link) แสดงความเสียใจต่อผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน รวมถึงการใช้อาวุธที่ไม่เลือกเป้าหมายเช่นทุ่นระเบิด และเรียกร้องให้รัฐภาคีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (APMBC) ยึดมั่นตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ต่อมา กัมพูชาได้กล่าวถ้อยแถลงที่บิดเบือนข้อเท็จจริง

ผู้แทนไทยจึงได้ขอใช้สิทธิตอบโต้ โดยชี้แจงว่า การปะทะล่าสุดเกิดจากกองกำลังกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้ามาในดินแดนไทย รายงานของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observation Team: AOT) ได้ยืนยันว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ทำให้ทหารไทยเจ็ดนายได้รับบาดเจ็บจนพิการเป็นทุ่นระเบิดที่เพิ่งถูกวางใหม่ ตรงกันข้ามกับข้ออ้างที่ว่าทุ่นระเบิดหลงเหลือจากสงครามกลางเมือง สะท้อนยุทธวิธีและรูปแบบซ้ำซากของอีกฝ่ายในการดำเนินการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อไทย ปฏิเสธการกระทำของตนเอง และแสร้งว่าตนเป็นเหยื่อ เพื่อสร้างภาพลวงตาว่าเป็นฝ่ายที่รักษาสันติภาพและใช้ความอดกลั้น

ไทยประณามการกระทำที่ไร้การยั่วยุนี้ว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้พลเรือนกว่า 400,000 คน รวมถึงสตรีและเด็ก ต้องอพยพ ไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองโดยชอบตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ โดยมาตรการป้องกันตนเองทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความจำเป็นและตอบโต้เป้าหมายทางทหารเท่านั้น

ไทยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศและการทูต พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างสันติและยั่งยืน เพื่อยุติความทุกข์ยากของประชาชนและชุมชนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

เอกสารประกอบ

Right_of_Reply_GA_debate_as_delivered_(2).pdf